ประกาศ ขอให้เตรียมการณ์รับสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควัน
23 กุมภาพันธ์ 2561ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
ด้วยในห้วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนเมษายนของทุกปี จะเกิดความแห้งแล้งและมีลมกระโชกแรง ประกอบกับความผันผวนของสภาพภูมิอากาศโลกอันเป็นผลมาจากสภาวะโลกร้อน รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศป่าไม้ การเผ่าป่าเพื่อเกษตรกรรม จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่าและหมอกควัน
ดังนั้น เพื่อให้การเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ ในเขตพื้นที่ตำบลลาดหญ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล จึงขอประชาสัมพันธ์ ดังนี้
ไฟป่า
การเตรียมความพร้อมรับมือ
ก่อน เกิดไฟป่า
1. ทำแนวกันไฟรอบที่อยู่อาศัยหรือชุมชน ด้วยการกำจัดวัสดุที่เป็นเชื้อไฟ เช่น เศษหญ้าหรือวัชพืชแห้งเป็นประจำโดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง (ปลายเดือน ก.พ.- พ.ค.)
2. เตรียมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือในการดับไฟป่า
3. จัดเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ช่วยในการดับไฟหรือระงับการลุกลามของไฟไว้ที่บ้านและในชุมชน ให้พร้อมและสะดวกต่อการใช้งาน
ขณะเกิดไฟป่า
-เมื่อเกิดไฟไหม้ หรือไฟป่า ให้หลบหนีออกมาจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วที่สุดหากอยู่ในอาคารสูงอย่าใช้ลิฟท์
-ให้ใช้บันไดหนีไฟ
-ระวังอย่าสูดควันไฟและควรหลบให้พ้นจากสิ่งของติดไฟที่อาจหล่นลงมาทำให้เกิดอันตราย หรือหากพอมีเวลาจะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ
-ปิดจมูกแล้วรีบหลบหนีออกมา
-กรณีไฟป่าให้อพยพไปยังสถานที่หลบภัย หรือ สถานที่ปลอดภัย
ข้อควรจำ
- ไฟป่าหากรีบดับโดยเร็วจะไม่ลุกลามอย่างกว้างขวาง ไฟป่าจะลุกลามตามทิศทางลม ไฟป่าสามารถลุกลามข้ามแนวกันไฟหรือข้ามถนนได้เมื่อมีเชื้อเพลิงจำนวนมากและมีลมแรง การดับไฟป่าจะมีประสิทธิภาพด้วยการตัดเส้นทางการลุกลามหรือตัดเชื้อเพลิง
หมอกควัน
หมอกควัน..เป็นปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีและทวีความรุนแรงมากขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากไฟป่า ฝุ่นละอองจากถนน ควันจากภาคอุตสาหกรรม และเขม่าจากน้ำมันดีเซล ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศซึ่งมีภูเขาล้อมรอบทำให้มลพิษต่าง ๆ ถูกกักไว้และแผ่ปกคลุมทั่วเมือง และผลวิจัยพบปริมาณผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นทุกปี
การเตรียมความพร้อมรับมือ
ก่อน เกิดปัญหาหมอกควัน
1. ลด ละ เลิก หรือหลีกเลี่ยงการเผาหรือการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นควันเพิ่มขึ้น
2. ให้ความรู้แก่ผู้อื่นว่าการก่อมลพิษทางอากาศทุกชนิดโดยเฉพาะการเผา บั่นทอนสุขภาพตัวเองและผู้อื่น และการเผาผิดกฎหมายอาญา มาตรา 220 อาจถูกปรับ ถึง 14,000 บาทจำคุกถึง 7 ป หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. ทุกคนมีส่วนร่วมในการเก็บใบไม้กิ่งไม้เพื่อทำปุยหมักแทนการเผา
4. ลดการสร้างขยะ แยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อลดปริมาณขยะที่มักเป็นสาเหตุของการเผา
5. เจ้าของที่ดินดูแลที่ดินของตัวเอง มีการแผ้วถางและปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกันมิให้มีการเผาเกิดขึ้น
6. ปลูกต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มรวมทั้งไม้ในร่มเพิ่มมากขึ้น
ขณะเกิดปัญหาหมอกควัน
1. ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อมิให้มลพิษทางอากาศเข้ามาสะสมในอาคาร หากมีเครื่องฟอกอากาศให้เปิดใช้งาน
2. ผู้สูงอายุซึ่งมักมีปัญหาโรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด รวมทั้งเด็กเล็กที่มีภูมิต้านทานยังไม่ดี เป็นกลุ่มเสี่ยงจึงควรงดออกไปทำกิจกรรมนอกอาคาร
3. หากมีความจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมนอกอาคารควรสวมหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นละเอียดขนาดเล็กหรือใช้ผ้าชุบน้ำให้ชุ่ม หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าทบหลายชั้นชุบน้ำให้ชุ่มแล้วปิดจมูก
4. สวมแว่นตาเพื่อปกป้องดวงตาจากลมและหมอกควัน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ควรสวมหมวกกันน็อค แบบมีหน้ากาก
5. ใช้น้ำเกลือกลั้วคอเพื่อป้องกันอาการเจ็บคอ
6. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงที่มีหมอกควันมาก เพราะจะเป็นอันตรายต่อปอดมากกว่าเป็นผลดีต่อร่างกาย
7. ห้ามการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด เพื่อมิให้ซ้ำเติมสภาพอากาศที่เลวร้ายอยู่แล้ว